ประหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอก ! รีวิว Geneva Model L ลำโพงสุดชิคจากสวิตเซอร์แลนด์
Geneva Acoustics แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์แดนนาฬิกาหรู โดดเด่นด้วยดีไซน์ สวย-ประนีต-แหวกแนว อันเป็นเอกลักษณ์ เปรียบประหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกประดับบ้าน ได้ใจลูกค้าที่ชื่นชอบการออกแบบที่มีสไตล์ โมเดลที่ผมได้รีวิวคือ Geneva Sound System "Model L DAB+" (with Bluetooth) มันคือเครื่องเล่น "All-In-One" พร้อมลำโพงที่ผนวกการเชื่อมต่อไร้สายอย่างบลูทูธมาให้ด้วย
Geneva Acoustics แบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำจากสวิตเซอร์แลนด์แดนนาฬิกาหรู โดดเด่นด้วยดีไซน์ สวย-ประนีต-แหวกแนว อันเป็นเอกลักษณ์ เปรียบประหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกประดับบ้าน ได้ใจลูกค้าที่ชื่นชอบการออกแบบที่มีสไตล์ โมเดลที่ผมได้รีวิวคือ Geneva Sound System "Model L DAB+" (with Bluetooth) มันคือเครื่องเล่น "All-In-One" พร้อมลำโพงที่ผนวกการเชื่อมต่อไร้สายอย่างบลูทูธมาให้ด้วย
หมายเหตุ : DAB+ คือ Digital Radio ประเทศไทยยังไม่รองรับ

Geneva Model L (with DAB+ & Bluetooth)
ราคาเปิดตัว 49,900 บาท

Geneva แบรนด์จากสวิตเซอร์แลนด์

Model L หรือขนาด "ใหญ่" และสีที่ทีมงานได้มาทดสอบคือสีดำ Glossy Black

ดีไซน์เปรียบประหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้าน

ดีไซน์เปรียบประหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้าน
Geneva Model L : All-in-One Bluetooth Speaker
-ลำโพงประกอบด้วยทวีตเตอร์ขนาด 1" สองตัว
-ลำโพงวูฟเฟอร์ขนาด 5.25" สองตัว
-ลำโพงวูฟเฟอร์ขนาด 5.25" สองตัว
-ภาคขยาย : 4 ช่อง Digital (Class D) Amplifier 180 watts ประสิทธิภาพสูง กินไฟต่ำ
-Bluetooth 2.1 (A2DP) Apt-X and AAC codecs เพื่อรับข้อมูล Streaming แบบไร้สาย
-CD player
-วิทยุ FM ดิจิตอลมีฟังก์ชั่นค้นหาสถานีระบบอัตโนมัติ บันทึกสถานีได้ 6 สถานี
-DAB/DAB+ radio บันทึกสถานีได้ 6 สถานี
-นาฬิกาปลุกแบบดิจิตอล
-ควบคุมด้วยปุ่มกด เรืองแสง ระบบสัมผัส
-จอดิสเพลย์ LED แสดงผล Volume/Mode/Frequency และ เวลา
-ควบคุมด้วยปุ่มกดเรืองแสง ระบบสัมผัส
-มี 2 ขั้วต่อ Stereo mini-jack และ RCA
-สีเคลือบขึ้นเงาแบบเปียโน มีสีขาว สีดำ สีแดง
-ควบคุมด้วย Remote control
-ขาตั้ง อะลูมิเนียม ประกอบและแยกชิ้นได้
ฟีเจอร์
-ระบบลำโพง : 2 × 1“tweeters และ 2 x 5.25” woofers
-ภาคขยาย : 4 ช่องสัญญาณ Digital (Class AB) Amplifier 180 Watt
-การตอบสนองความถี่ : 40 Hz - 20 kHz
-แหล่งจ่ายไฟ : 100 - 240V AC, 50 - 60Hz
-โหมดประหยัดพลังงาน Max 100 W, Standby 0.5 W
-น้ำหนัก : ~16.0 kg
-เชื่อมต่อ Bluetooth 2.1 A2DP apt-X and AAC codecs
-Stereo mini (3.5 mm)
-Analogue audio inputs for external audio sources (1.8inch) RCA
-Support for external audio streaming devices (AirPlay® with Apple AirPort Express, Sonos, etc.)
via the stereo mini connector.
ขนาดและน้ำหนัก
-กว้าง × ยาว × สูง (เมื่อถูกเปิด): 44.8 ซม. x 29.1 ซม.x36.5 ซม.
-น้ำหนัก: 16 กิโลกรัม (35 ปอนด์)
ราคาเปิดตัว 49,900 บาท
หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ genevalab
หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลจากเว็บ genevalab
ดีไซน์ของ Geneva มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตัวตู้ของ Model L ทำจากไม้พร้อมเคลือบผิวสีดำเงาแบบเปียนโนกลอส ดูสวยงามหรูหรา ตัวเครื่องทรงสี่เหลี่ยมมีขนาดค่อนข้างใหญ่บึกบึน หากเป็น Model M หรือ S ก็จะเล็กลงตามลำดับ กล่าวคือชื่อรุ่นจะถูกเรียงลำดับเหมือนขนาดเสื้อ เช่น S, M , L, XL เนื่องด้วยสรีระของตัวตู้ที่ใหญ่ทำให้ได้เปรียบเรื่องการจัดวางตัวขับเสียงโดยไร้ข้อจำกัด ไร้การถูกลดทอนอย่างไม่จำเป็น (เฉกเช่นลำโพง Soundbar) แผงหน้าโดดเด่นด้วยดีไซน์ "รูปโดม" ซึ่งเมื่อเห็นปุ๊บจะรู้ปั๊บว่ามันคือ Geneva มุมขวาบนของแผงหน้ามีไฟ Digital แสดงสถานะการทำงานของเครื่อง ส่วนด้านบนมีปุ่มกดระบบสัมผัส รวมถึงช่องใส่ CD แบบดูดเข้า ซึ่งทำงานได้อย่างสมูธลื่นปรื๊ด ด้านล่างมีช่องต่อ Input แบบ Analog RCA in , แจ็ค Stereo Mini 3.5 พร้อมช่องต่อสำหรับวิทยุ FM ส่วนด้านหลังเป็นท่อคายเบสดีไซน์สลิมยาว ถือว่าทำได้สวยงามกลมกลืนเข้ากับตัวเครื่อง ด้านรีโมทคอนโทรลมีขนาดเล็กกระทัดรัดดูหรูหรา เคสสีเงินตัดกับปุ่มสีดำได้ค่อนข้างลงตัว พร้อมปุ่มควบคุมและปุ่มสลับ Input อย่างครบครัน





ส่วนช่องเสียบสายไฟแเป็นแบบ IEC 3 ขา


สาย Mini Jack 3.5 / สายอากาศสำหรับวิทยุ FM / สายไฟ

รีโมทไซส์คอมแพ็ค เคสสีเงินตัดกับปุ่มสีดำ
มาทดสอบประสิทธิภาพกัน ตัวผมเองเป็นคนชอบฟังเพลงมากถึงมากที่สุดอยู่แล้ว เลยตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อได้เครื่องเล่นระดับจัมโบ้มาไว้ประจำการภายในบ้าน โครงสร้างการขับเสียงภายในประกอบไปด้วยทวีตเตอร์ขนาด 1" = สองตัว และวูฟเฟอร์ขนาด 5.25" = สองตัว นั่นหมายถึงมันเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ (บางท่านอาจไม่แน่ใจเพราะมันมองไม่เห็นดอกลำโพงภายใน) ภาคขยาย : 4 ช่อง Digital (Class D) Amplifier 180 watts ประสิทธิภาพสูง กินไฟต่ำ
เริ่มจากแผ่น CD ก่อนเลย เพลง Acoustic หวานๆจาก M.Y.M.P ใส่แผ่นลงช่อง Slot มันดูดแผ่นลงไปได้ "นิ๊ง" มาก จัดว่าลื่นไหลและเงียบสงัดสลัดข้อยึดติดที่เคยชินกับเสียงดูดแผ่นอันน่ากลัวของเครื่องเล่นเกมส์ PS3 / PS4 หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่น CD ในรถของผมไปจนหมดสิ้น ผมเชิญ "คุณชานม" อาจารย์โยดาแห่งภาพและเสียงให้มาทดสอบใส่แผ่นอยู่บ่อยๆ แกยังเผลอเอ่ยปากว่า "เนียนและสงัด" มาก จริงๆแอบใช้แกเปลี่ยนแผ่นให้ต่างหาก (ฮา) เลยขอชมเชยไว้ ณ ตรงนี้
เริ่มจากแผ่น CD ก่อนเลย เพลง Acoustic หวานๆจาก M.Y.M.P ใส่แผ่นลงช่อง Slot มันดูดแผ่นลงไปได้ "นิ๊ง" มาก จัดว่าลื่นไหลและเงียบสงัดสลัดข้อยึดติดที่เคยชินกับเสียงดูดแผ่นอันน่ากลัวของเครื่องเล่นเกมส์ PS3 / PS4 หรือแม้กระทั่งเครื่องเล่น CD ในรถของผมไปจนหมดสิ้น ผมเชิญ "คุณชานม" อาจารย์โยดาแห่งภาพและเสียงให้มาทดสอบใส่แผ่นอยู่บ่อยๆ แกยังเผลอเอ่ยปากว่า "เนียนและสงัด" มาก จริงๆแอบใช้แกเปลี่ยนแผ่นให้ต่างหาก (ฮา) เลยขอชมเชยไว้ ณ ตรงนี้



เพลง Especially For You จาก M.Y.M.P

เพลง Better to be Home Soon ของ Andrea Zonn
จากแผ่น Best Audiophile Voices II

เพลง Change The World ของป๋าสโลว์แฮนด์ Eric Clapton
หรือแม้กระทั่งเปิดวีดีโอ YouTube เล่นใน iPad และให้เสียงไปออกที่ Geneva ก็ทำได้ชิลชิลเช่นกัน ถึงแม้คุณภาพเสียงจะมิอาจสู้การเล่นไฟล์เพลงแท้ๆในเครื่องก็ตาม ทดสอบการเล่นผ่าน Bluetooth ถือว่าผมแอบ "ติดใจ" เพราะสามารเลือกเปลี่ยนเพลงได้อย่างฉับไวโดยไม่ต้องเสียเวลาสลับแผ่น และที่สำคัญยังคงรักษาคุณภาพเสียงจากการสตรีมผ่านอากาศไว้ได้ดี สรุปทดสอบเพลินเลยยาวไปถึงตีสอง เล่นจน iPad แบตหมดซะงั้น เลยเปลี่ยนไปทดสอบกับการดูหนังในลำดับถัดไปแทนแบบไม่ต้องหลับต้องนอน




ดีไซน์สุดชิคแบบนี้ หากมีติดไว้ในห้องนั่งเล่นคงเท่ห์น่าดู ^ ^

ขอบคุณ บริษัท มหาจักร ดีเวลอปเมนท์ จำกัด ที่เอื้อเฟื้อเครื่องทดสอบ
สนใจสินค้าติดต่อ : บริษัท มหาจักรดีเวลอปเมนท์ จำกัด
46 ถ.สุขุมวิท 3 (นานาเหนือ) แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110
โทร. 02-2560020-9 แฟกส์: 02-253-1696อีเมล์: info@mahajak.com